ปลาทอดผัดคื่นช่าย

เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ผมชอบที่สุด ปลาทอดกับคื่นช่ายมันช่างเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ช่วยเจริญอาหารได้ดีจริงๆ เวลากินกับข้าวสวยร้อนๆ

ทอดปลาก่อน โดยนำปลากะพงหั่นช้ินมาคลุกกับแป้งอเนกประสงค์ แป้งจะช่วยซับน้ำเอาไว้ทำให้เวลาทอดไม่กระเด็น และในเวลาเดียวกันจะทำให้ปลากรอบมากขึ้นด้วย (อร่อย) จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันท่วม สักพักจนเหลืองกรอบน่าทาน ยกขึ้นพักไว้

ตั้งไฟ ใส่กระเทียมและพริกสับลงไปคั่วจนกระเทียมเหลือง ใส่ปลากรอบที่ทอดไว้แล้วตามลงไป คั่วสักพัก แล้วใส่เครื่องปรุงต่างๆ ตามลงไป เมื่อเริ่มจะได้ที่แล้วก็ค่อยใส่พริกชี้ฟ้าแดง และคื่นช่าย ผัดต่อจนผักสลด ยกขึ้นเสิร์ฟ

ส่วนผสม

  • ปลากระพงหั่นชิ้น 6-8 ชิ้น
  • แป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ขวด
  • กระเทียมสับ 1-2 กลีบ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่น 1 เม็ด
  • คื่นช่าย ตามสมควร

เที่ยวสงขลา-หาดใหญ่แบบไม่มีรถส่วนตัว

ขอเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวสงขลา+หาดใหญ่ ช่วงหลังโควิดจบใหม่ๆ แบบไม่มีรถส่วนตัวให้ฟังหน่อย

หาดใหญ่กับตัวเมืองสงขลาอยู่ใกล้กันมาก ถ้าขับรถก็ใช้เวลาแค่ 35 นาทีเท่านั้น ก็เลยเป็นอะไรที่นิยมไปเที่ยวคู่กัน ซึ่งข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์ low carbon ไม่ขับรถส่วนตัวอยู่แล้ว ก็เลยวางแผนว่าจะไปเที่ยวสองเมืองนี้ แบบเช่ารถส่วนตัวขับ แต่พยายามใช้ขนส่งสาธารณะเอา

บอกเลยว่า เป็นอะไรที่ไม่เวิร์ค วิธีการที่ดีที่สุดที่จะเที่ยวสองเมืองนี้คือการเช่ารถขับทันทีที่เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เพราะขนส่งสาธารณะมีจริง แต่ไม่เวิร์คในทางปฏิบัติ อย่างน้อยก็ ณ ช่วงที่ผมเดินทางไป

เริ่มจากประการแรกเลย พอไปถึงสนามบิน ผมก็คิดว่าจะนั่งมินิบัสจากสนามบินเข้าตัวเมือง ซึ่งมี และราคาไม่แพง แต่ปัญหาก็คือว่า รถออกไม่บ่อย ผมต้องรออีกหนึ่งชั่วโมงกว่ารถจะออก คิดแล้วไม่คุ้มค่าเวลาที่เสียไป ก็เลยตัดสินใจเรียกแท็กซี่แทน ซึ่งมีทั้งแบบแท็กซี่ลีมูซีน และแท็กซี่มิเตอร์ ซึ่งแบบหลังจะถูกกว่านิดหน่อย คิดตามระยะทาง แต่มีบวกเพิ่ม 50 บาท คล้ายๆ กับสนามบินทุกแห่งในประเทศไทย สรุปแล้ว เข้าเมืองหาดใหญ่ ผมจ่ายค่าแท็กซี่มิเตอร์ไป 190 บาท

ในตัวเมืองหาดใหญ่นั้นมีขนส่งสาธารณะให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่รถสองแถวซึ่งวิ่งตามเส้นทางประจำ รถตุ๊กตุ๊กซึ่งคิดราคา 20 บาทต่อเที่ยวต่อคน ไปไหนก็ได้ (แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว อาจจะคิดแพงกว่านั้น)​ รถแท็กซี่เหมาซึ่งต้องโทรเรียกเท่านั้น ยังมีรถ Grab ด้วย ซึ่งส่วนตัวคิดว่า Grab เวิร์กที่สุด เพราะไม่แพง (ถ้าเทียบกับแท็กซี่) และมีเยอะ แต่นั่นก็คือเส้นทางเฉพาะในตัวเมืองหาดใหญ่เท่านั้น ถ้าหากออกไปนอกเมือง Grab จะหายาก และตัวเลือกอื่นนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะแพงมาก

พอมาถึงตัวเมืองหาดใหญ่ ผมก็พักกินข้าว แล้วก็คิดจะเดินทางต่อไปยังสงขลา เพราะว่าโรงแรมอยู่สงขลา ตอนแรกนึกว่ามีคิดรถสองแถวอยู่ที่ขนส่ง เพราะศึกษาจากเน็ตมาว่าเป็นแบบนั้น แต่ไปถึงจริงๆ ไม่มี มีแต่รถตุ๊กๆ เหมา ราคาโขกสับมาก ผมจ่ายไป 400 บาท เพราะความไม่รู้ ซึ่งจริงๆ ถ้าผมพยายามกดเรียก Grab ให้ได้ อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่น่าจะถูกกว่านี้เยอะเลย

โรงแรมที่ผมพักอยู่สงขลา แต่ว่าเป็นนอกเมืองสงขลา ซึ่งกลายเป็นปัญหา เพราะการเรียกแท็กซี่หรือ Grab จากโรงแรม เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะคนขับจะต้องขับรถมาจากหาดใหญ่ เพื่อมารับ ทำให้เขาคิดแพง หรือไม่ก็ไม่อยากมารับ ถ้าจะใช้บริการรถของโรงแรมก็มี แต่ยิ่งแพง เขาคิดตั้ง 800 บาท ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม กลายเป็นว่าทุกเช้าต้องมานั่งลุ้นว่าวันนี้จะเรียก Grab ได้สำเร็จมั้ย

สรุปแล้วโลกนี้ก็ยังไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คนที่ Low Carbon อยู่

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองสงขลา หลักๆ เลยก็คือย่านเมืองเก่า มีตึกรูปร่างโบราณ และสตรีทอาร์ทให้ถ่ายรูป ซึ่งกินพื้นที่ 3 ถนน ได้แก่ ถนนนางงาม ถนนนครใน และถนนนครนอก รวมทั้งยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้กินหลายร้านเลย ถัดออกจากเมืองเก่าไปจะเป็นที่อยู่ของหาดสมิหา มีรูปปั้นนางเงือก เกาะหนู เกาะแมว มีถนนคนเดิน (เปิดวันศุกร์และเสาร์) ส่วนถ้าออกจากเมืองสงขลาไปเลย ก็มีมัสยิดกลาง ให้แวะชักภาพกัน และที่พลาดไม่ได้เลย คือ เกาะยอ ซึ่งเป็นเกาะในทะเลสาบสงขลา อยู่ใกล้เมืองสงขลามาก สามารถข้ามไปได้ด้วยสะพานติณสูลานนท์ ที่นั่นจะมีร้านอาหารแนวซีฟู้ดให้ได้สวาปามกัน

ร้านมหัศจรรย์เกาะยอ

สมัยก่อนคนมาเมืองหาดใหญ่เพื่อซื้อของที่ตลาดกิมหยงกัน แต่ปัจจุบันนี้สินค้าหลายอย่างมีขายที่กรุงเทพแล้ว นอกจากร้านอาหารซึ่งมีกระจายอยู่เต็มหาดใหญ่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวเดียวที่ไปกันก็น่าจะเป็นเขาคอหงส์ ซึ่งมี Cable Car ให้ขึ้นชมวิว

 

ไข่กระทะ

ไข่กระทะเป็นอาหารเช้าที่นิยมมากในภาคอิสาน น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเวียดนาม

เวลาทำไข่กระทะ ผมมีกระทะเล็กหล่อขนาดเล็กไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ กระทะเหล็กหล่อมีข้อดีคือไม่ติดกระทะ และผมเลือกขนาดที่พอดีกับการทำไข่กระทะโดยเฉพาะเลย

เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันเล็กน้อย ตามด้วยกุนเชียง เบคอน หมูยอ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคั่วบนกระทะสักพักให้กรอบน่ารับประทาน ตักขึ้นพักไว้ จากนั้นใช้กระทะเดิม ตอกไข่ลงไปสองฟอง เพื่อทำเป็นไข่ดาว เมื่อเริ่มจะสุกก็ให้โรยหน้าด้วยกุนเชียงที่ทำไว้แล้วก่อนหน้านี้ ยกเสิร์ฟ ปรุงรสด้วยพริกไทย และซอสแม็กกี้