Grilled Vegetables ผักย่าง

เวลาคิดถึงการกินผัก ความเบื่ออย่างหนึ่งก็คือ ผักส่วนใหญ่จะปรุงด้วยการต้ม แต่เราสามารถสร้างความน่ากินให้ผักของเราได้ด้วยการเปลี่ยนมากินผักย่างแทน (ไม่ทอดหรือผัก เพราะอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่นัก) ที่สำคัญคือ อาหารย่างที่เป็นผักจะไม่พบสารก่อมะเร็งไม่ว่าจะย่างด้วยความร้อนสูงแค่ไหน ผักย่างก็เลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างลงตัวสำหรับคนที่อยากกินอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ไม่น่าเบื่อ

ผักที่เหมาะกับการย่างมีมากมายหลายชนิด เช่น พริกหวาน ฟักทอง บัตเตอร์สคว็อท มันเทศ มันฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน ดอกกะหล่ำ บล็อคเคลี แครอท เบบี้แครอท เห็ด หัวหอม บีทรูท ถั่วแขก ถั่วลูกไก่ กระหล่ำดาว เป็นต้น พยายามหั่นให้ได้ความหนาพอๆ กัน จะได้สุกเท่าๆ กันทุกอย่าง

ผักย่างของผมมีการปรุงรสแค่เพียงนำ้มันมะกอกกับเกลือเท่านั้น เราใส่เกลือไม่ใช่เพื่อรสเค็ม แต่ใส่แค่ให้เกลือช่วยดึงรสชาติของผักเองออกมาให้มากที่สุดเท่านั้น หลังจากล้างผักให้สะอาด สะเด็ดน้ำให้แห้งแล้ว นำผักของเรามาคลุกกับน้ำมันมะกอกและเกลือในชามพักให้ทั่ว พยายามให้น้ำมันมะกอกเคลือบผิวของผักให้ทั่วที่สุด เพื่อให้ผักย่างไม่แห้งเกินไป นำไปเรียงในเตาอบ พยายามเกลี่ยให้ผักทับกันให้น้อยที่สุด สาเหตุที่ผมย่างผักด้วยเตาอบเป็นเพราะมันสะดวกกว่ามาก เคล็ดลับคือการใช้ความร้อนสูงสักนิดหนึ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูคล้ายกับการย่างบนเตามากที่สุด เช่น 220 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 30 นาที กลับข้างผักระหว่างทาง

Cold Soba -โซบะเย็น

โซบะเย็น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำงาน วัตถุดิบทั้งหมดสามารถเก็บไว้ล่วงหน้าได้นาน และอยากคิดว่ามีแต่แป้งแล้วจะไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะเส้นโซบะทำจากบัควีท (แต่มีแป้งสาลีผสมด้วย) จึงเป็นธัญพืชที่ย่อยช้า

อุปกรณ์ที่ควรหาซื้อไว้ติดบ้านคือที่รองโซบะที่ทำด้วยไม้ไผ่ ซึ่งหาซื้อได้ตามแผนกเครื่องครัวของห้างญี่ปุ่น เลือกขนาดที่วางได้พอดีกับจานของเรา คือมีที่เหลือด้านล่าง เพื่อให้น้ำไหลลงไป จะช่วยให้เส้นโซบะของเราไม่เปียกน้ำเย็นเวลากิน

ในส่วนของ dipping sauce ใช้น้ำเปล่า : โชยุ : มิริน ในอัตรา 2:1:1 ใส่ผงปลาโอแห้งลงไป 1 ซอง ต้มประมาณ 10-15 นาที นำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด (ถ้าเป็นไปได้ ควรทำเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น)

ต้มเส้นโซบะในน้ำเดือด จำนวนนาทีตามที่ระบุไว้ในซอง เสร็จแล้วนำไปจุ่มลงในน้ำเย็นจัดที่ใส่น้ำแข็ง จากนั้นยกขึ้นพักไว้ เสิร์ฟกับต้นหอมซอย วาซาบิ และ dipping sauce โรยหน้าด้วยสาหร่ายแห้งซอย

การกินโซบะเย็น เราจะคีบเส้นลงไปจุ่มในซอสแค่ 1/3 เท่านั้น แล้วนำเข้าปากเลย หลังจากกินเสร็จแล้ว บางคนจะเอาซอสที่เหลือมาใส่น้ำซุปร้อนๆ ลงไป แล้วซดให้หมดอีกที จะได้ไม่เปลือง แต่ส่วนตัวคิดว่า โซเดียมที่รับประทานเข้าไปจนหมด อาจจะเยอะไปหน่อย คนที่มีปัญหาสุขภาพก็ระมัดระวัง

Pasta Carbonara

ซอสคาโบนาล่าของคนอิตาเลียนไม่ใส่ครีม แต่ทำจากไข่และพาเมซานชีสล้วนๆ ปรุงด้วยเกลือเล็กน้อย โดยใช้ไข่หนึ่งฟองบวกไข่แดงหนึ่งใบสำหรับหนึ่งที่ บดพาเมซานชีสตามลงไป (เยอะๆ) แล้วคนให้เข้ากัน เนื่องจากไข่ในซอสจะได้รับความร้อนจากส่วนผสมอื่นๆ ที่เทเข้าไปรวมกับซอสในภายหลังเท่านั้น จึงมีโอกาสที่ไข่บางส่วนอาจจะไม่สุกดี แนะนำว่าควรใช้ไข่ที่สดใหม่เสมอ และคนที่สุขภาพไม่ดีควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้

ต้มเส้นพาสต้าที่ชอบให้ al Dente จากนั้นตั้งกระทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอก ทอดแพนเชตต้าหรือเบคอนที่หั่นท่อนไว้ ให้กรอบเล็กน้อย ยกขึ้นพักไว้ ใส่กระเทียมสับ คั่วจนเหลืองทอง ใส่เส้นที่ต้มสุกแล้วลงไปผัด เติมเกลือ พริกไทย และพาสลีย์สับ พยายามให้เส้นเคลือบด้วยนำ้มันให้ทั่ว สักพัก ปิดไฟ เททุกอย่างลงในซอสที่เตรียมไว้ในชาม คลุกอย่างรุนแรงให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน และเพื่อให้ไข่ได้รับความร้อนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เสริฟ์ลงบนจาน แต่งหน้าด้วย พาเมซานชีส ตามใจชอบ

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

  • สปาเก็ตตี้ หรือ เพนเน่ หรือเส้นพาสต้าแบบอื่นที่ชอบ 80 g
  • แพนเชตต้า (หรือเบคอน) 35 g
  • ไข่หนึ่งฟอง และไข่แดงอีกหนึ่งใบ
  • พาเมซาชีส 4 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำซอส)
  • กระเทียม 1-2 กลีบ
  • น้ำมันมะกอก 1-1.5 ช้อนโต๊ะ
  • อิตาเลียนพาสลีย์สับ 1 ช้อนชา
  • พาเมซานชีสป่น 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแต่งหน้า)
  • เกลือ และพริกไทย