Waldorf Salad – สลัดผลไม้

จะกินผลไม้อย่างเดียวก็เบื่อ การทำสลัดผลไม้อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบทำสลัดวอลดอร์ฟ (Wardorf Salad) เพราะว่าเป็นคนชอบกินผลไม้ไม่กี่อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือแอ๊ปเปิ้ล

ที่มาของสลัดวอลดอร์ฟ คือเป็นเมนูชื่อดังของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในอเมริกา สลัดชนิดนี้ก็เลยได้ชื่อของโรงแรมมาเป็นชื่อของมัน จริงๆ แล้วมันก็คือสลัดผลไม้นั่นแหละ ผลไม้สามอย่างที่ขาดไม่ได้ และทำให้จานนี้เป็นสลัดวอลดอร์ฟ ก็คือ แอ๊ปเปิ้ล องุ่น และคื่นช่ายฝรั่ง โรยด้วยถั่ววอลนัท ซึ่งเป็นถั่วที่ผมมีประจำบ้านอยู่แล้ว อาจเติมผลไม้อย่างอื่นเข้าไปอีกก็ได้ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลย

น้ำสลัดวอลดอฟท์ใช้มายองเนสธรรมดา เติมมะนาวลงไปด้วย เพื่อให้เปรี้ยวขึ้น รสเปรี้ยวเป็นรสที่เข้ากันมากกับผลไม้ในจานนี้ เติมเกลือและพริกไทยตามชอบ แค่นี้เลย ทำง่ายมากๆ

สิ่งที่ผมชอบทำเสมอหลังเตรียมเสร็จก็คือเอามันไปแช่ตู้เย็นให้เย็นๆ ก่อน แล้วค่อยกิน มันจะยิ่งอร่อย

ส่วนผสม : แอ๊ปเปิ้ล, องุ่น, คื่นช่ายฝรั่ง, ถั่ววอลนัท, มายองเนส, น้ำมะนาว, เกลือ และพริกไทย สัดส่วนตามใจชอบ

Caesar’s Salad – สลัดซีซ่าร์ที่สมบูรณ์แบบ

ผมเพิ่งจะรู้เมื่อเร็วๆ นี้เองว่า ซีซาร์สลัด เป็นอาหารแม็กซิกัน และไม่มีอะไรเกี่ยวกับ จูเลียส ซีซ่าร์ ใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่คนที่คิดเมนูนี้ชื่อซีซาร์ และเป็นเมนูที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งนายซีซาร์ ไม่รู้จะทำอาหารอะไรดี ก็เลยเข้าครัวไปดูว่ามีอะไรเหลือบ้าง ก็เอามารวมๆ กัน แล้วก็กลายมาเป็นซีซาร์สลัดอย่างที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

สลัดซีซ่าร์ เป็นอะไรที่หากินง่าย ทั้งในร้านอาหารฝรั่ง หรือแม้แต่อาหารญี่ปุ่น เกาหลี ก็มี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกร้านจะทำได้อร่อย ที่จริงแล้ว เมนูนี้ไม่ได้ทำยาก เราสามารถทำกินเองที่บ้านได้ ซึ่งจะทำให้เราสามารถทำให้มันเป็นสลัดซีซ่าร์ที่สมบูรณ์แบบได้ ดีกว่าหลายๆ ร้านที่แค่ใช้ชื่อนี้เฉยๆ แต่มันดูแย่มาก ไม่เหมือนสลัดซีซ่าร์ที่ผมอยากกิน

ผักกาดที่เหมาะจะใช้ทำสลัดซีซ่าร์มากที่สุดคือ Romaine Lettuce รองลงมาคือ Cos สิ่งที่สำคัญมากคือการล้างให้สะอาด และจบน้ำสุดท้ายด้วยน้ำใส่น้ำแข็ง ความเย็นจัดจะช่วยทำให้ผักกรอบ หลังจากนั้นต้องเอาไปปั่นด้วยเครื่องปั่นหน้าตาแบบข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพื่อกำจัดน้ำที่ติดอยู่ในตัวผักออกไปให้มากที่สุด อย่าลัดขั้นตอนนี้เป็นอันขาด เพราะน้ำที่ตกค้างอยู่ในตัวผักจะปนกับน้ำสลัด ทำให้น้ำสลัดไม่อร่อยได้

สำหรับขนมปังกรอบ (ครัวตองค์) สามารถใช้ขนมปังที่กินเหลือได้ เป็นการช่วยกำจัดของเหลือก่อนที่ขนมปังจะบูด ซีซ่าร์สลัดเลยเป็นเมนูที่น่าทำกินเป็นประจำสำหรับคนที่กินขนมปัง หั่นคือฉีกให้เป็นชิ้นเล็กๆ อาจทาเนยด้วยก็ได้ ก่อนนำไปอบให้กรอบ อย่าลืมเบคอนอบกรอบ และพาเมซานชีสโรยหน้า

สำหรับน้ำสลัด จะซื้อสำเร็จเอาก็ได้ เพื่อประหยัดเวลา แต่ถ้ามีความคึก จะทำเองก็ได้ ซีซ่าร์สลัดมีน้ำสลัดเป็นของตัวเอง ซึ่งไม่เหมาะกับน้ำสลัดทั่วไป เพราะมีส่วนผสมของปลาแอนโชวีและกระเทียมบดรวมกันจนละเอียด แถมใช้มะนาวกับน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่งเพื่อให้เกิดรสเปรี้ยวที่มากกว่าน้ำสลัดทั่วไป และยังมีการบดพาเมซานชีสลงไปในน้ำสลัดอีกด้วย สำหรับตัวมายองเนสอาจใช้ไข่แดงดิบกับน้ำมันมะกอกผสมกันแทนก็ได้

เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ทำให้ซีซ่าร์สลัดดูน่ากินมากคือการเอาน้ำสลัดมาคลุกกับผักให้ทั่วก่อนที่จะโรยหน้าด้วยส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ดูน่ากินมาก และเป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้ที่ดูแตกต่างจากสลัดเมนูอื่นๆ เพียงแค่นี้คุณก็จะได้ซีซ่าร์สลัดที่สมบูรณ์แบบแล้วครับ

ส่วนผสม

  • ผัก Romaine Lettuce หรือ Cos
  • ขนมปังอะไรก็ได้
  • เบคอน
  • พาเมซานชีสป่น

ส่วนผสมของน้ำสลัด

  • ปลาแอนโชวี 1-2 ตัว
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
  • มายองเนส 1/2 ถ้วย
  • พาเมซานซีสป่น 1 ช้อนโต๊ะ

อาหารเช้าที่ผมกินเป็นประจำ

มื้อเช้าเป็นมื้อที่เหมาะจะทำกินเองมาก เพราะหากินข้างนอกยาก คนกรุงเทพส่วนใหญ่จะต้องรีบไปทำงานตอนเช้า ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าเอง ส่วนใหญ่ก็มักจะหาซื้อกินระหว่างทางไปทำงาน ซึ่งก็หนีไม่พ้นอาหารสำเร็จรูปในเซเว่น หรือบางทีก็เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้งข้างทาง

เป็นเรื่องที่สงสัยกันมานานแล้วว่า อาหารเช้าของคนไทยจริงๆ แล้วคืออะไรกันแน่ ถ้าถามต่างคน ก็จะได้รับคำตอบที่แตกต่างกันมาก แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึง ข้าวต้ม โจ๊ก หรือไม่ก็เป็น ไข่ดาวหมูแฮม แต่ถ้าเป็นสมัยใหม่หน่อย ก็อาจจะเป็นกาแฟหนึ่งแก้ว กับขนมปังหรือครัวซองค์ หรือจะเป็นพวก corn flake ไปเลยก็มี

ส่วนตัวผมเตรียมอาหารเช้ากินเอง ซึ่งเน้นความง่าย และพยายามใช้วัตถุดิบที่สามารถเก็บได้นานในตู้เย็น จะได้ไม่ต้องคอยพะวงทุกวันว่าพรุ่งนี้เช้าจะกินอะไรดี ข้อดีอีกอย่างของการทำข้าวเช้ากินเอง ก็คือโอกาสที่ผมจะได้กิน superfood อย่างน้อยวันละครั้ง คือใส่พวกมันลงไปในมื้อเช้าก่อนเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้กินของดีๆ แล้วทุกวัน

เพราะฉะนั้นอาหารเช้าที่จะมีเสมอเลยสำหรับผมก็คือนมหนึ่งแก้ว ใส่พวก superfood ต่างๆ ลงไปตามใจชอบ หลักๆ แล้วจะมี oatmeal ถั่ววอลนัท และเบอร์รี่แช่แข็ง เป็นตัวยืน สาเหตุที่เลือกกิน oatmeal ทุกวัน เพราะว่ามันมี gummy fiber มีสรรพคุณลดคอเรสเตอรอลในเลือดได้ เราสามารถกิน oatmeal ดิบได้ โดยที่ผมจะแช่มันทิ้งไว้ในนมแล้วเข้าตู้เย็นไว้ทั้งคืนก่อนหน้า ถั่ววอลนัทก็เป็นถั่วที่มีสารอาหารเยอะที่สุด เบอร์รี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีประโยชน์มากๆ

superfood อย่างอื่นที่ผมเลือกใส่บ้างไม่ใส่บ้าง เปลี่ยนสลับไปมาบ้าง เพื่อให้ไม่น่าเบื่อก็เช่น อัลมอนด์ เมล็ดเชีย เมล็ดแฟล็ก งาขาว น้ำผึ้ง กล้วย เป็นต้น

ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ใช้พลังงานอะไรมาก แค่นมใส่ superfood หนึ่งแก้วก็เพียงพอแล้วสำหรับมื้อเช้า แต่ถ้าจะต้องไปออกกำลังกาย หรือออกไปนอกบ้าน อาจจะทำให้รู้สึกหิวก่อนเวลาอาหารเที่ยงก็ได้ ดังนั้นผมจะกินอย่างอื่นเพิ่มเติมด้วย อย่างเช่น ไข่ลวกกับขนมปังทาเนย (ผมชอบไข่ลวกที่อยู่ในน้ำเดือด 4 นาที เยาะแม๊กกี้และพริกไทยขาว) หรือไข่ดาวกับเบคอนไปเลยก็ได้ ผลไม้อย่างเช่น แอ็ปเปิ้ล กีวี่  แต่ส่วนใหญ่แล้วผมจะพยายามจำกัดแคลอรี่มื้อเช้า เพราะเรากินเอง เราควบคุมได้ ต่างจากมื้ออื่นๆ ที่อาจมีเหตุจำเป็นให้ต้องกินเยอะเกินไป