Cheeseburger Casserole

เมนูนี้เป็นเมนูที่ถอดรื้ออาหารที่เราคุ้นเคยอย่างชีสเบอร์เกอร์ ให้กลายเป็นอาหารที่เน้นสุขภาพมากขึ้น เพราะตัดแป้งออกไปจากส่วนผสม แต่ส่วนผสมอย่างอื่นยังอยู่ครบ และเปลี่ยนวิธีการให้ความร้อนใหม่มาเป็นการอบแทนการทอด มีการเติมไข่ลงไปด้วย เพื่อเชื่อมโยงส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน

ใส่เนื้อบด มะเขือเทศสับ ไข่คน เชลด้าชีส ลงไปในถาดเซรามิก โดยเรียงกันเป็นชั้นๆ อาจเพิ่มผักต่างๆ ลงได้ด้วยก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นนำไปอบในเตาที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที

ซูกินี่ผัดกระเทียม

อาหารง่ายๆ อย่างซูกินี่ผัดกระเทียมเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดี ซูกินี่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ในขณะที่แคลอรี่ก็ต่ำ การผัดกระเทียมช่วยทำให้มีรสชาติและสีสันที่น่าทานมากขึ้น เหมาะสำหรับช่วงลดน้ำหนัก เราสามารถใช้น้ำมันมะกอกในการผัด เพื่อส่งเสริมสุขภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย ผัดสักครู่ให้เหลืองน่าทาน

นอกเหนือจากผัดกระเทียมแล้ว เราอาจใส่พริกไทย เกลือ และพริกป่น เพื่อปรุงรสชาติให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น

ประสบการณ์หัดเล่นกีต้าร์ตอนอายุ 40+

สาเหตุที่ผมเพิ่งมาหัดเล่นกีต้าร์ตอนอายุปูนนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้เป็นคนที่หลงใหลเปียโนมาโดยตลอด ตอนเด็กเรียนเปียโนมาก็หลายหน แต่ก็ยังเล่นไม่เก่งอยู่ดี ฝันอยากไปถึงจุดที่สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องดูโน้ต แต่ก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นได้เลย จนโตเป็นผู้ใหญ่ก็หายๆ จากการเล่นดนตรีไป เพิ่งจะมายอมรับความจริงภายหลังว่า สุดท้ายแล้วชีวิตนี้เราคงเล่นเปียโนไม่เก่งอย่างที่ฝันไว้หรอก ก็เลยลองเปิดใจให้กีต้าร์เอาตอนอายุ 40+

อันที่จริง ตอนวัยรุ่นเคยลองจับกีต้าร์ดูหนหนึ่ง เคยเรียนกีต้าร์คลาสสิกด้วย แต่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ รู้สึกว่ามันยาก มีอะไรหลายอย่างที่เราไม่เก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนคอร์ดให้เร็ว หรือการร้องไปด้วยเล่นไปด้วย รู้สึกว่าทำไม่ได้ ซึ่งก็แปลกเหมือนกันที่รอบนี้พอมาหัดเล่นใหม่ กลับพบว่ามันง่ายกว่าเดิมเยอะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร อาจเป็นเพราะแก่ตัวขึ้น ฟังเพลงมาเยอะ อะไรที่เคยไม่เก็ต อยู่ดีๆ มันก็เก็ตขึ้นมาง่ายๆ ซะขนาดนั้น เป็นเรื่องแปลกแต่จริง

คำแนะนำสำหรับคนที่เริ่มต้นหัดเล่นกีต้าร์เลยก็คือ ลองเริ่มต้นจากการตีคอร์ดเพลงอะไรก็ได้ที่มีคอร์ดง่ายๆ สี่คอร์ดนี้ คือ G Am D E โดยเริ่มหัดจากแพทเทิร์นการตีคอร์ดที่ง่ายที่สุดก่อนก็คือดีดลงอย่างเดียว หัดเปลี่ยนคอร์ดทั้งสี่คอร์ดนี้ให้คล่อง หลังจากนั้นก็หาเพลงที่ใช้แค่สี่คอร์ดเดิมนี้อีก แต่มีแพทเทิร์นการตีคอร์ดที่ยากขึ้น เช่น ลง ลง ขึ้นขึ้น ลงลง หรือที่ยากขึ้นอีกก็เช่น ลง ลงขึ้น ขึ้นลง แพทเทิร์นพื้นฐานเหล่านี้ ใช้เล่นเพลงส่วนใหญ่ได้ เป็นอะไรที่สำคัญ

อุปสรรคอย่างหนึ่งของการหัดเล่นกีต้าร์มือใหม่คือ เจ็บนิ้ว วิธีแก้คือ ลอง setup กีต้าร์ใหม่ (จ้างช่าง) เพราะกีต้าร์บางตัวสายสูงเกินไป ทำให้กดยาก เจ็บนิ้ว และอีกวิธีคือ การเปลี่ยนสายกีต้าร์ใหม่ จากเบอร์ 12 เป็นเบอร์ 10 ก็จะนิ่มขึ้นเช่นกัน สุดท้ายแล้ว ถ้ายังเจ็บอยู่ ก็บอกเลยว่า ต้องทน ทุกคนที่หัดเล่นกีต้าร์ จะต้องเจ็บนิ้วทุกคน จนกว่านิ้วจะเริ่มด้าน ซึ่งจะทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลงไปได้เองในที่สุด

อุปสรรคอีกอย่างคือ การร้องไปด้วยตีคอร์ดไปด้วย ในช่วงแรกๆ ถ้ายังทำไม่ได้ อาจจะต้องมีใครสักคนช่วยทำหน้าที่ร้องให้แทน หรือไม่ก็ตีคอร์ดใส่เพลงที่กำลังเล่นอยู่ และบอกเลยว่า การตีคอร์ดไปร้องไปเพลงแรกสุดในชีวิตนั้นจะยากมากๆ ให้ลองเล่นทีละประโยค เล่นช้าๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ เล่นเร็วขึ้น และต่อเนื่องได้เอง โดยสำหรับเพลงแรกของชีวิต ต้องหลีกเลี่ยงเพลงที่มีแพทเทิร์นตีคอร์ดที่ยาก โดยเฉพาะแพทเทิร์นที่มีจังหวะขัด อันนี้จะยิ่งร้องด้วยยากเกินไป พอเล่นเพลงแรกในชีวิตได้แล้ว รับรองว่าเพลงที่สองจะง่ายขึ้นอย่างเหลือเชื่อ สรุปคือต้องพยายามผ่านเพลงแรกในชีวิตไปให้ได้ นั่นแหละยากที่สุด หลังจากนั้นก็จะง่ายขึ้นมาก

ที่สำคัญคือ การจะตีคอร์ดไปด้วยร้องไปด้วยให้ร้องแล้วไพเราะนั้น คุณจำเป็นจะต้องเล่นกีต้าร์ได้คล่องแคล่วมากพอที่จะเล่นได้โดยแทบไม่ต้องใช้สมองคิด เปลี่ยนคอร์ดก็ต้องคล่องจนแทบไม่ต้องมองเลย เพราะถ้ายังทำไม่ได้ขนาดนั้น สมองของเราก็จะไม่สามารถโฟกัสอยู่ที่การร้องได้ เพราะต้องเจียดกำลังมาใช้ในการเปลี่ยนคอร์ด หรือตีแพทเทิร์นอยู่ แบบนั้นการร้องก็จะไม่ดี ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องของความชำนาญซึ่งต้องอาศัยเวลา ไม่มีทางลัด

การฝึกกีต้าร์หลังจากนั้น ก็ค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น ลองเพลงที่มีคอร์ดที่ยังไม่เคยเล่นอยู่ ค่อยๆ เพิ่มจักรวาลของคอร์ดที่เรารู้จักขึ้นไปทีละนิด เช่น เพลงคีย์ C เพลงคีย์ F แล้วตามด้วยเพลงคีย์ D อาจเริ่มใช้ Capo เพื่อช่วยแปลงคอร์ดของเพลงที่ยากเกินไปให้ง่ายขึ้นด้วย ในเวลาเดียวกันก็เรียนรู้แพทเทิร์นการตีคอร์ดใหม่ๆ ที่ยากกว่าเดิม ตีคอร์ดครึ่งห้อง การดีดตบ เป็นต้น

คอร์ดกลุ่มหนึ่งที่ยากสำหรับมือใหม่คือคอร์ดทาบ เริ่มต้นจาก F ตามด้วย Bm และอื่นๆ อีก ไม่มีใครในโลกที่เริ่มเล่นกีต้าร์แล้วกดคอร์ดทาบเหล่านี้ได้เลย เพราะว่านิ้วของเรายังไม่แข็งแรงพอ จึงต้องอาศัยเวลานานมากกว่าจะกดคอร์ดเหล่านี้ได้โดยไม่บอด แปลกแต่จริงที่ฝึกไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่ง อยู่ดีๆ มันก็จะกดคอร์ดเหล่านี้แบบง่ายดายได้เอง โดยไม่รู้ตัว อย่าล้มเลิกความพยายามไปก่อนก็แล้วกัน ถัดจากพวกคอร์ดทาบแล้วก็ยังมีพวกคอร์ดในต่ออีก เมื่อตีคอร์ดเก่งแล้ว ก็เปลี่ยนมาหัดเกา ฯลฯ กีต้าร์มีอะไรยากๆ ให้ท้าทายเราไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบ

ขอให้ทุกคนโชคดี

 

ครอบครัว Peppa Pig – เฟอร์นิเจอร์ไม้

 

ตอนนี้รู้สึกชอบเฟอร์นิเจอร์หน้าตาแบบนี้เอามากๆ ก็เลยทำออกมาอีกเป็นฝูง กลายเป็นครอบครัว Peppa Pig ไปเลย (ขาดแค่ Grandma)

ตัวที่เป็นม้านั่งยาวสองตัว ตั้งใจทำให้ความสูงเท่ากับเตียงนอนพอดี และความกว้างเท่ากับช่องข้างเตียงพอดี เลยเอามาวางเพื่อปิดซอกเตียง ที่ทุกคนเกลียด ทำให้เกิดพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มเติม (แต่ลืมคิดไปว่าควรทำให้สูงกว่าเตียงมากสักหน่อย แทนที่จะเท่าให้เท่าๆ กับเตียงพอดี เพราะเวลานอนจะได้ไม่ปัดของตก)

บางทีเฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้อาจกลายมาเป็น signature ประจำตัวของผมไปเลยก็ได้

ช่วงนี้แทบไม่ได้ทำของขายบน Etsy เลย เพราะค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้เริ่มไม่คุ้มที่จะทำขาย และอีกอย่างก็คือ การทำของขายบน Etsy ต้องทำแต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ขนส่งได้ แต่เราเริ่มอยากเรียนรู้ที่จะทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ดูบ้าง

ยังไงๆ ตอนนี้เราก็ขายของบน Etsy ได้เกิน 200 ชิ้นไปแล้ว ซึ่งเกิดเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ฉะนั้น ต่อไปคงไม่มีเป้าหมายในการสร้างยอดขายแล้ว ถ้ามีเวลาก็จะทำเพิ่มเพื่อวางขาย แต่ตอนนี้งานหลักคงเปลี่ยนเป็นการหัดทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เอาไว้ใช้งานเองแทน ยังมีอะไรให้ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ

กาแตงผักรวม – Vegetable Gratin

กาแตงเป็นอาหารที่ทำง่าย ราวกับว่าแค่ใส่ทุกอย่างลงไป ก็เสร็จแล้ว ซึ่งเราสามารถเลือกใส่แต่ผัก สารพัดชนิด ซึ่งเหลือในตู้เย็น สับๆ แล้วใส่ลงไป หรืออาจจะใส่เนื้อสัตว์ผสมเข้าไปด้วยนิดๆ หน่อยๆ เพื่อเพิ่มรสชาติด้วยก็ได้ สิ่งที่ช่วยสมานส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกันคือ นม ชีส เนย และน้ำแป้ง นำทั้งหมดไปอบที่อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จ

ผักที่ใส่ลงไปจะเป็นอะไรก็ได้ แต่มันฝรั่งน่าจะเป็นผักที่ยืนพื้นของเมนูนี้ ส่วนใหญ่แล้วผักที่มีลักษณะแข็งหน่อย จะเหมาะกับเมนูนี้ ตัวอย่างเช่น ฟักทอง พริกหวาน หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง ซูกินี่ มะเขือม่วง แครอท ดอกกระหล่ำ บ็อคเคลี กระหล่ำปลี เป็นต้น ถ้าอยากให้มีเนื้อสัตว์บ้าง ก็อาจใส่พวกไส้กรอก แฮม เบคอน ลงไปด้วย

ส่วนผสม

  • เนย 1 ช้อนโต๊ะ
  • นม 1/2 ถ้วย
  • เชลด้าชีส 1-2 แผ่น
  • น้ำผสมแป้งอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผักและเนื้อสัตว์บดอะไรก็ได้ที่อยากกิน

พาสต้าหน่อไม้ฝรั่งและถั่ว

ช่วงนี้เริ่มอินกับอาหารแนว Whole Food Plant Based (WFPB) ก็เลยพยายามมองหาเมนูที่มีลักษณะแบบนี้

พาสต้าเมนูนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ทำเหมือนกับพาสต้าธรรมดา เพียงแต่หน่อไม้ฝรั่งกับถั่วเป็นอะไรที่เข้ากันดี อาจใช้ถั่ว Hazel Nut หรือ Walnut ก็ได้ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย เท่านั้น แต่จบด้วยการบีบมะนาวในขั้นตอนสุดท้ายก่อนยกขึ้นเสิร์ฟ และโรยหน้าด้วยพาเมซานชีส เส้นพาสต้าก็เลือกได้หลากหลายตั้งแต่เส้นสปาเก็ตตี้ ไปจนถึงลิงกีนี่เลย

ส่วนผสม

  • เส้นพาสต้าชนิดใดก็ได้ที่อยากกิน 80 กรัม
  • หน่อไม้ฝรั่ง 1 ขีด
  • ถั่ววอลนัท 6-7 เม็ด
  • น้ำมันมะกอก 1-1.5 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว เกลือ พริกไทย พาเมซานชีส ตามใจชอบ

หมูกรอบผัดพริกเกลือ

เมนูนี้ใช้หมูกรอบแพลนท์เบสทำ เพราะเก็บง่าย หาซื้อง่ายกว่าหมูกรอบจริง และที่สำคัญลองกินดูแล้วเป็นอาหารแพลนท์เบสที่อร่อยกว่าที่คิด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องแข็งได้นานด้วย

ก่อนจะเอาหมูกรอบแพลนท์เบสมาใช้ต้องนำไปทอดให้กรอบน่ากินก่อน โดยทอดในน้ำมันท่วม ดูให้ได้สีสันที่สวยงาม น่ากิน แล้วพักไว้

สำหรับพริกเกลือจะใช้กระเทียมสับผสมพริกขี้หนูสับ ซึ่งโดยมากต้องมีพริกชี้ฟ้าสับผสมไปด้วย เพื่อไม่ให้เผ็ดมากเกินไป ตั้งกระทะน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมและพริกที่เตรียมไว้ลงไปผัดสักครู่ให้ดูน่ากิน ค่อยนำหมูกรอบที่ทอดไว้ก่อนแล้วใส่ตามลงไป ผัดต่อ เติมน้ำมันหอย และผงปรุงรส ตามลงไป ใช้เวลาผัดไม่นาน ก็ยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย

ข้าวหน้าไก่

เมนูนี้มีความหลากหลายในการทำมาก แต่ส่วนตัวชอบแบบที่น้ำค่อนข้างจะข้นๆ ซึ่งจะใช้แป้งข้าวโพดละลายน้ำเตรียมไว้ เติมตอนสุดท้ายก่อนยกขึ้นหม้อ โดยค่อยๆ เติมจนกว่าจะได้ความข้นที่ตัวเองชอบ ที่สำคัญจะต้องมีพริกชี้ฟ้าเขียวหั่นแว่นกินคู่กันด้วย ไม่รู้ทำไม แต่ว่าชอบสุดๆ

วันนี้ใช้อกไก่ในการทำ แต่จริงๆ แล้วสะโพกไก่จะอร่อยกว่า เพราะมีความมันมากกว่า ทำให้ไม่แห้ง

ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ผัดกระเทียมสับให้สุก ตามด้วยรากผักชีสับ พริกไทยดำ ผัดจนหอม ใส่เนื้อไก่ตามลงไป ผัดให้สุก แล้วเติมน้ำเปล่า ตามด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำมันงา เหล้าจีน ตุ๋นต่อไปด้วยไฟอ่อนสักพักให้น้ำงวดลง ค่อยเติมน้ำแป้งข้าวโพดลงไป แบบทยอย เพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่ตัวเองชอบ ยกขึ้นจากหม้อ ราดข้าว แต่งจานด้วยแตงกวาและพริกชี้ฟ้าเขียว

ส่วนผสม

  • ข้าวสวย 1 จาน
  • อกไก่หรือสะโพกไก่ หั่นเต๋าใหญ่ 1 ชิ้น
  • น้ำเปล่า 1/4 ลิตร
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซี้อิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 1 ราก
  • กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 6 ช้อนโต๊ะ
  • แตงกวา และพริกชี้ฟ้าเขียวซอย พอประมาณ
  • ผักชีโรยหน้า

มาม่าผัดขี้เมา

เมนูนี้อาจจะดูเป็นอาหารสำเร็จรูป แต่จริงๆ ก็แค่เส้นอย่างเดียว เส้นมาม่าเป็นเส้นที่อร่อย และการที่เราเอามาลวก ทิ้งน้ำที่ลวกไป และไม่ได้ใช้ผงสำเร็จของมัน ก็ทำให้เมนูนี้ไม่ได้ unhealthy อย่างที่คิด

ผัดขี้เมาเป็นอะไรที่ไม่มีนิยามตายตัว บางคนใช้ใบกระเพรา แต่บางคนใช้ใบโหระพา บางคนใส่พริกหยวกด้วย บางคนก็ไม่ใส่ แต่สูตรของผมจะใช้ใบกระเพรา และไม่ใส่ถั่วฝักยาว ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นผักที่ซื้อมาแล้วจะกินไม่หมด เพราะขายเป็นกำใหญ่เกินไปสำหรับคนหนึ่งคนที่จะกินหมดได้ในสัปดาห์เดียว

สำหรับน้ำซอสก็ใช้ซอสผัดธรรมดา ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำมันหอย ตามด้วยซีอิ้วขาว พริกไทยขาวป่น เกลือนิดหน่อย จะใส่น้ำตาลหรือไม่ก็ได้

ส่วนผสม

  • มาม่า 1 ห่อ (เฉพาะเส้น) ลวกในน้ำเดือด 3 นาที
  • กุ้งสองตัว หรือซีฟู้ดอะไรที่ชอบ
  • ข้าวโพดอ่อน 2 ฝัก
  • ใบกระเพราะ 2 ต้น
  • ใบมะกรูดซอย 2 ใบ
  • พริกชี้ฟ้าแดงซอย 5-6 ชิ้น
  • น้ำมันหอย 1 ชต.
  • ชีอิ้วขาว 1 ชต.
  • น้ำมันพืช และกระเทียมสับ พอสมควร
  • พริกไทยขาวป่น และน้ำตาลทราย พอสมควร

หมูตุ๋น

หมูตุ๋นที่จะทำเป็นสไตล์เอเชีย เลยไม่มีพวกหัวหอม แครอท แต่ถ้าใครอยากใส่ลงไปด้วย ก็ตามสบายเลย ไม่มีถูก ไม่มีผิด แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

ผมใช้หม้อแรงดัน เพราะช่วยประหยัดเวลาได้เท่าตัว แต่ไม่จำเป็น จะใช้หม้อธรรมดาก็ได้เหมือนกัน วิธีทำก็ง่ายมากเลย แค่ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไป ยกเว้นน้ำแป้ง ตุ๋นนาน 2 ชั่วโมง (หรือชั่วโมงเดียวสำหรับหม้อแรงดัน) ค่อยเติมน้ำแป้งลงไปทีหลัง เพื่อให้น้ำข้นขึ้นดูน่ารับประทาน เท่านั้นเอง

ที่จริงแล้วส่วนผสมของมันสามารถพลิกแพลงได้เยอะมาก เช่น อาจใส่เครื่องเทศของพะโล้ลงไปด้วย หรือบางทีผมก็แอบใส่ไวน์แดงเข้าไปด้วย ก็ยังได้ ยิ่งใส่ส่วนผสมเข้าไปเยอะๆ ยิ่งทำให้รสชาติมีความซับซ้อนมากขึ้น อร่อยขึ้น

อาจรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ บะหมี่ และผักคะน้าลวก ก็ได้

ส่วนผสม

  • ใช้เนื้อหมูส่วนที่มีไขมันหรือพังผืดเยอะๆ เช่น ขั้วตับ หรือแม้แต่พวกไหล่ก็ได้ ส่วนพวกเนื้อสันไม่เหมาะจะทำหมูตุ๋น
  • สามเกลอ (รากผักชี เม็ดพริกไทย กระเทียมสับ) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย (แค่เกือบท่วมหมู แต่ถ้าใช้หม้อธรรมดาอาจจะต้องใส่มากหน่อย เพราะน้ำจะระเหยออกไปส่วนหนึ่ง)
  • เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย, ซี้อิ้วขาว อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำเปล่า 6 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชี และพริกไทยป่น สำหรับแต่งหน้า