เหตุผลของการมีชีวิตอยู่

หลังจากคิดวนไปวนมา ก็เริ่มตกผลึกขึ้นเรื่อยๆ ว่า ที่จริงแล้ว เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของผม คือการได้เสพสิ่งที่ coolๆ ตามประสาคนเนิร์ดๆ อย่างผมไปเรื่อยๆ แค่นั้นเลยจริงๆ

  • หาเพลงที่เล่นกีต้าร์เพราะๆ ไปเรื่อยๆ
  • หาซีรีส์หรือหนังฟิวกู้ดดีๆ ดูไปเรื่อยๆ
  • ได้กินของอร่อยๆ
  • ได้เจอความรู้ใหม่ๆ ที่เปิดโลก

เหล่านี้ล้วนทำให้รู้สึกมีค่าพอที่เกิดมาและมีชีวิตอยู่บนโลกนี้  ซึ่งอาจฟังดูเห็นแก่ตัว เพราะเหมือนเกิดมาเพื่อเสพสุขเพื่อตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ทำไงได้ ก็มันคิดออกมาแล้วเป็นแบบนี้จริงๆ เราไม่ได้อยากทำตัวเพื่อให้คนอื่นยอมรับ เรารู้สึกว่านั่นเสียชาติเกิด เราอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำสิ่งที่ตัวเราเป็นคนเลือกเองว่ามีค่าสำหรับเรานั่นคือการได้ซาบซึ้งกับนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่มนุษยชาติช่วยกันผลิตมันขึ้นมา มันเจ๋งมาก

แค่นั้นเลย

ความสุขง่ายๆ ในราคาที่เข้าถึงได้

  1. เดินตัวปลิวออกมาจากสปา รู้สึกเหมือนเดินอยู่บนโลกใบใหม่
  2. ทำเมนูอาหารที่สุดปราณีตสักจาน ด้วยฝีมือของตัวเอง
  3. เล่นดนตรีเพลงโปรด ให้คนอื่นฟัง
  4. ได้พบเจอและสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลที่น่าสนใจหรือคนที่มีอะไรที่ไม่เหมือนกับเรามากๆ
  5. ได้เสวนาเรื่องที่หลงใหลกับคนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน
  6. ได้ดูหนังหรือซีรีส์ฟิวกู้ดดีๆ สักเรื่อง
  7. ได้รู้อะไรใหม่ๆ ที่เปิดโลกเปิดกะลามากๆ ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต

 

 

ชุดสเต็กปลากะพงย่างเกลือ

อาหารที่ healthy ที่สุด น่าจะหนีไม่พ้นพวกชุดอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเราสามารถดัดแปลงกินเองที่บ้านได้ด้วยการใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว แค่นี้ก็อร่อยสุดๆ แล้ว

สลัดซีซ่าร์

ส่วนผสมของสลัด

  1. ผักคอส
  2. ขนมปังปิ้งหั่นท่อน
  3. เบคอนจำนวนหนึ่ง
  4. พาเมซานชีส
  5. น้ำสลัดญี่ปุ่น

ส่วนผสมของน้ำสลัดญี่ปุ่น

  1. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  5. พริกไทยและเกลือเล็กน้อย
  6. น้ำผึ้งเล็กน้อย (Optional)

เคล็ดลับ

  • ล้างผักน้ำสุดท้ายด้วยน้ำเย็นจัดและสะบัดน้ำออกให้แห้งก่อนนำมาคลุกกับส่วนผสมอื่นๆ
  • อาจใช้อกไก่สับแทนเบคอนก็ได้

Me 2024

เป็นสายเนิร์ดสาย Geek ก็ควรทำตัว Nerd/Geek ไปเลย และภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น ไม่แคร์สื่อ

พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้ใหม่อยู่เสมอ ในเรื่องที่เราหลงใหล ไปให้สุดทาง ได้แก่ Tech, Music และ Culture

ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับ การติดตามข่าวเทค และอ่านโซเซียลภาษาจีน

ซ้อมกีต้าร์ และฝึกภาษาจีน วันละนิด แต่ทำให้ได้ทุกวัน

แค่นี้ก็พอแล้ว

 

วางแผนเรื่องคอนเทนท์

ถ้าไม่นับเรื่องคอร์สการลงทุนในกลุ่มเฟสบุ้ค ช่องยูทิวบ์น่าจะเป็นจุดศูนย์รวมของคอนเทนท์ของผมนับจากตอนนี้ไป (แม้ว่ามันจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักในตอนนี้ มีแต่คนเลิกทำยูทิวบ์กันหมดแล้ว)​ ในความเป็นคน geek ก็อยากมีที่รวมคอนเทนท์ไว้ส่งเสริมตัวตนบ้าง

แต่ถ้าจะนิยามในชัดว่า คอนเทนท์บนยูทิวบ์ของเราจะเกี่ยวกับอะไรดี ก็เป็นอะไรที่ยากเหมือนกัน ที่ผ่านมาคอนเทนท์ของเราจับฉ่ายตลอด ซึ่งกูรูโซเซียลมีเดียเขาว่าไม่ดี ตัวตนไม่ชัด คนไม่อยากกดติดตาม ฯลฯ

ตอนนี้มีพอสแคสท์ Dekisugitalks อยู่แล้ว ซึ่งพูดเกี่ยวกับข้อสังเกตของผมเกี่ยวกับแนวโน้มทางสังคมเป็นส่วนใหญ่ คิดว่าก็คงเป็นแนวนี้ต่อไป

ในส่วนของ Shorts น่าจะเป็นการนำเสนอไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของผมเองว่าไปเจออะไรที่ไหนมา หรือกำลังพยายามทำอะไรอยู่ ทำนองนี้

คอนเทนท์อีกแบบหนึ่งที่อยากให้มีอยู่ในช่อง คือ คอนเทนท์ที่เอาโซเซียลของจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเล่าให้ฟัง พ่วงด้วยความแตกต่างหรือความเข้าใจผิดระหว่างวัฒนธรรมของประเทศหรือภาษาต่างๆ ด้วย แต่คอนเทนท์ในส่วนนี้ยังไม่สำเร็จ ต้องใช้เวลาพัฒนาอีก

ถ้ามีคอนเทนท์ทั้งหมดประมาณนี้น่าจะรู้สึกพอใจกับช่องได้

เรื่องกินที่ยังไม่เคยลงตัว

หลายปีที่ผ่านมากับการลองหานโยบายที่ดีที่สุดสำหรับการกินอาหารของตัวเอง แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยลงตัว

เรื่องการกินเป็น trade-off ที่เราไม่สามารถบรรลุได้ทุกอย่าง ต้องเลือกเท่านั้น และมันก็เป็นอะไรที่เลือกยากมากจริงๆ

ถ้าถามว่าตอนนี้เราคิดว่านโยบายการกินที่เหมาะกับเราคืออะไร คำตอบน่าจะเป็น

ทำกินเองเฉพาะมื้อเช้า มีผลไม้ติดตู้เย็นไว้กินมื้อเย็นบ้าง ถ้าจะทำอะไรกินเองจริงๆ ก็เป็นแค่เมนูนึกสนุก ทำครั้งเดียวก็พอ

เหตุผลก็คือ ถ้าคิดจะทำอาหารกินเอง ต้องซื้อวัตถุดิบ แล้วก็พบว่า วัตถุดิบมีเยอะเกินไป ทำให้จำเป็นต้องกินเยอะโดยไม่จำเป็น ยิ่งเดี๋ยวนี้เราคุมน้ำหนักด้วย ทำให้แคลอรี่ที่รับได้มีจำกัด เลิกคิดจะทำมื้อเที่ยงหรือเย็นกินเองไปเลยดีกว่า ถ้าไม่มีอะไรจะกินจริงๆ ก็ถือโอกาสทำ IF ไปเลย แบบนี้เราก็จะมีของเหลือทิ้งน้อยลง แคลอรี่ที่ต้องกินก็ไม่เกินด้วย

ณ วันนี้คงเป็นแบบนี้ไปก่อน แต่วันหน้าก็ไม่รู้นะว่าจะต้องเปลี่ยนอีกมั้ย มันไม่เคยลงตัวสักที

คำที่มีความหมายเกี่ยวกับห้อง

房 หมายถึง บ้าน หรือห้องก็ได้ เช่น 房子 คือบ้าน หรือคอนโดมิเนียม แต่ 厨房 คือห้องครัว

室 หมายถึง ห้องที่เข้าอยู่นานๆ เช่น 办公室 ห้องทำงาน หรือ 卧室 ห้องนอน เป็นต้น

厅 หมายถึง ห้องที่ใช้ร่วมกันหรือเป็นสาธารณะ เช่น 客厅 ห้องรับแขก หรือ 饭厅 ห้องอาหาร

间 หมายถึง ที่ว่าง เปิดโล่ง เช่น 洗手间 ห้องน้ำ (สมัยก่อน)

屋หมายถึง บ้านทั้งหลัง หรือห้องก็ได้เช่นกัน เช่น 屋子 คือบ้านหรือคอนโดก็ได้ แต่ 出租屋 คือ ห้องเช่า

楼 หมายถึง ตึกทั้งตึกหรือแค่ชั้นเดียวของตึกก็ได้ เช่น 酒楼 คือร้านอาหารทั้งร้าน หรือ 办公楼 คือ office building แต่ 楼上 แปลว่าชั้นบน

层 หมายถึง ชั้นของตึกเท่านั้น