ปรัชญาชีวิตใหม่หลังเข้าสู่วัยกลางคน

ผมเกิดมาในยุคที่โลกมีความมั่นคงแน่นอนสูง ผมจึงถูกสอนให้วางแผนทุกอย่างเพื่ออนาคตข้างหน้า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ทำงานหนักและออมเงินตลอดชีวิตเพื่อวัยเกษียณจะได้สบาย

แต่โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก โลกหมุนเร็ว ไม่มีอะไรจิรังยั่งยืน หาความแน่นอนแทบไม่ได้ ความเหลื่อมล้ำก็มหาศาล ไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่จะไม่รู้สึกอินกับวิธีคิดแบบคนรุ่นผม ไม่รู้จะหวังน้ำบ่อหน้าขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่อเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เมื่อวันนั้นมาถึง สิ่งที่เราพยายามสร้างมาตลอดชีวิตมันจะยังพึ่งพาได้อยู่มั้ย บางทีความเหลื่อมล้ำที่ถ่างขึ้นก็ทำให้ต่อให้ไม่ใช้เงินเลยตลอดชีวิตก็ยังเข้าถึงเป้าหมายเหล่านั้นไม่ได้ด้วย ผมจึงไม่โทษที่คนรุ่นใหม่เลือกที่จะใช้เงินเพื่อหาความสุขในปัจจุบันก่อน มันคือหลักเศรษฐศาสตร์ธรรมดาที่เมื่อความไม่แน่นอนสูงขึ้น คนเราย่อมให้น้ำหนักกับปัจจุบันมากกว่า

ผมเองก็เริ่มที่จะเห็นด้วยกับวิธีคิดแบบนี้ มันสอดคล้องกับโลกยุคนี้มากกว่า แทนที่จะเราทนลำบากตลอดชีวิตเพื่อให้เรารวยแค่ตอนแก่ เราน่าจะเปลี่ยนมาทำให้ตัวเองมีความสุขสบายบ้างในตอนหนุ่มด้วย คือเฉลี่ยความสุขของเราออกไปตลอดชีวิต จริงๆ แล้วคนเราไม่จำเป็นต้องรวยก่อนก็มีความสุขก็ได้ ลองหันมามองหาความสุขแบบที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะมากซึ่งสามารถหาได้ตั้งแต่วันนี้เลย บางทีที่เราอยากรวยก็เป็นเพราะคนรอบข้างกดดันเรา ไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของเรา

ชีวิตต่อไปของผมหลังจากนี้คงเป็นแนวสุขนิยมเป็นหลัก เลิกคิดว่าจะต้องประสบความสำเร็จอะไรก่อนแล้วค่อยมีความสุข แต่มุ่งตรงไปที่การหาความสุขเป็นหลัก เน้นความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินมาก ได้ทำสิ่งที่ต้วเองต้องการจริงๆ คนอื่นเขาจะอยากได้อะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ต้องไปสนใจ น่าจะเป็นกลยุทธ์การดำเนินชีวิตที่ดีกว่าเดิม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *