ปีกไก่ทอด

จากการทดลองทอดปีกไก่ได้องค์ความรู้ใหม่ๆ ดังนี้

  1. ควรซับไก่ด้วยกระดาษชำระให้หมาดๆ ก่อนที่จะนำไปชุบอะไรก็ตามเสมอ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ถ้าไม่ทำ สิ่งที่ชุบจะไม่ค่อยเกาะไก่หลังจากทอดออกมาแล้ว
  2. กรณีชุบน้ำแป้ง อัตราส่วน น้ำ:แป้ง 1:1 แต่ที่จริงแล้วสัดส่วนระหว่างน้ำกับแป้งที่ผสมกันเป็นน้ำแป้งอาจไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายแล้วพอลงหม้อไป น้ำก็จะระเหยออกไปหมดเหลือแต่แป้งที่เกาะอยู่ดี การควบคุมความหนาของแป้งที่เกาะขึ้นอยู่กับตอนชุบมากกว่าว่าเราพยายามทำให้แป้งค้างอยู่บนไก่ให้มากหรือน้อยแค่ไหนก่อนที่เราจะทิ้งไก่ลงในน้ำมัน (เช่น สะเด็ดน้ำแป้งออกก่อนหรือไม่สะเด็ดเป็นต้น)
  3. ไก่ทอดที่แป้งหนาเกินไปใช่ว่าจะดี เพราะแม้จะมีส่วนกรอบๆ ให้กินเยอะขึ้น แต่เนื้อข้างในอาจจะไม่สุกได้เพราะความร้อนเข้าไปไม่ถึง หรือบางทีก็ทำให้ส่วนที่กรอบไม่เกาะหนังไก่ ส่วนแป้งควรจะบางแค่ไหนนั้นอันนี้แล้วแต่รสนิยมในการกินของคนกิน
  4. อุณหภูมิที่เหมาะสมในการทอดคือ 180-200 องศา และควรทอดอย่างน้อย 12 นาทีขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อไก่ข้างในสุกจริงๆ และการ Double Fry นั้นจะทำให้กรอบจริง กรอบนาน จึงควรทำอย่างยิ่ง

A. คลุกแป้งทอด B.ชุบน้ำแป้งทอด C.คลุกแป้งและไข่ไก่ทอด

วาฟเฟิล

วาฟเฟิลที่อร่อยต้องมีความกรอบ แต่ไม่ใช่กรอบมากจนกลายเป็นถ่าน นอกจากสัดส่วนของส่วนผสมที่เหมาะสมแล้ว สิ่งที่สำคัญมากพอๆ กันเลยก็คือจะเทส่วนผสมลงในแม่พิมพ์ยังไงให้เมื่อสุกแล้วส่วนผสมขยายตัวจนเต็มช่องว่างในแม่พิมพ์พอดี ไม่น้อยไปหรือไม่มากไป เพราะถ้าน้อยไป ส่วนที่ขยายตัวไปไม่ถึงผิวสัมผัสของแม่พิมพ์ด้านบนก็จะไม่กรอบ แต่ถ้ามากไปก็จะขยายตัวจนล้นแม่พิมพ์ ทำให้ผิดรูปอีก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะการที่เราใส่ผงฟูลงไปด้วย ทำให้ส่วนผสมมีการขยายตัวมากขึ้นในแม่พิมพ์ เนื่องจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น เราจึงต้องเผื่อฟองอากาศที่เกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าด้วย ที่สำคัญต้องคนส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันจริงๆ เพื่อให้ผงฟูทำงานอย่างเต็มที่ทุกครั้งที่เราทำ จะได้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนเดิมเสมอ ถ้าใส่ส่วนผสมในปริมาณที่เราทดลองคำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 75 ml
  • นมจืด 75 ml
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ

 

มะเขือเทศผัดไข่

เมนูนี้นิยมใส่ซอสหอยนางรม แต่จริงๆ แล้ว รสชาติของซอสหอยนางรมจะกลบรสชาติของทุกอย่างไปจนหมด ดังนั้นแนะนำให้ลองใส่เพียงแต่เกลือ น้ำซุป แป้งข้าวโพด และน้ำตาลเล็กน้อยในการปรุงรสเมนูนี้ก็พอ หรืออย่างมากก็เหยาะซอสมะเขือเทศนิดหน่อย เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริงของมะเขือเทศและไข่

ไก่ย่าง

เราสามารถทำให้ไก่ย่างมีหน้าตาแบบนี้ได้โดยใช้เตาอบไฟฟ้าธรรมดาที่บ้าน แค่หมักด้วยเครื่องหมักที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอยและซีอิ้วดำ (นิดหน่อย) ทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วนำไปเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 25 นาที โดยหมั่นตรวจตราอยู่เสมอมิให้หนังไก่ไหม้เกรียมเกินไป

ไก่ทอดเกาหลี

ในที่สุดก็ทอดไก่ให้กรอบแบบ crunchy ได้สำเร็จ

ใช้แค่แป้งข้าวโพดเปล่าๆ คลุกไก่เท่านั้น ไม่ต้องผสมน้ำใดๆทั้งสิ้น และไม่ต้องหนามากด้วย แป้งติดไก่ได้แค่ไหน ก็เอาแค่นั้น แป้งที่หนาเกินไปกลับไม่ใช่เรื่องดี เพราะไก่จะไม่สุก แป้งจะไม่ติดกับหนังไก่ แค่มีแป้งบางๆ อยู่ก็พอแล้ว

ทอดด้วยไฟกลาง อุณหภูมิประมาณ 180-200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที ถ้าไก่ไหม้แสดงว่าไฟแรงเกินไป พักให้เย็นลงแล้วนำกลับไปทอดใหม่เหมือนเดิมอีก 10 นาที

ในส่วนของซอสเคลือบก็ไม่มีอะไรมาก ใช้แค่กระเทียม น้ำตาลทราย พริกแห้ง น้ำส้มสายชู สัดส่วนแล้วแต่คนชอบ เคี่ยวให้ได้ความหนืดที่ต้องการ แล้วนำไก่ที่ทอดไว้แล้วมาคลุก แค่นี้ก็เสร็จแล้ว

Seafood Pajeon

นี่คือสุดยอดอาหารเกาหลีที่ทั้งอร่อยเพราะว่าเป็นของทอด และเวลาเดียวกันก็ได้กำจัดผักที่เหลือในตู้เย็นได้ด้วย เพราะจะใส่ผักอะไรเข้าไปก็ได้

เคล็ดลับในการทำให้กรอบ คือแม้ว่าจะทอดด้วยกระทะเทฟล่อน แต่ก็ควรใช้น้ำมันค่อนข้างมาก เพราะถ้าน้ำมันน้อย จะไม่มีทางทำให้กรอบได้เลย ควรใช้น้ำมันที่มากกว่าการผัด เช่น 3 ช้อนโต๊ะขึ้นไป แล้วค่อยเทน้ำมันส่วนเกินออกทีหลังตอนทอดเสร็จแล้วก็ได้

สำหรับแป้งที่ใช้จะเป็นแป้งมันฝรั่ง แป้งข้าวโพด หรือแป้งอเนกประสงค์ก็ได้ หรือจะผสมกันก็ได้ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ที่สำคัญคือน้ำต้องน้อยกว่าแป้ง เช่น 75% ของแป้งก็พอ มิฉะนั้นจะเหลวเกินไป

อีกเคล็ดลับในการทำให้กรอบน่ากินคือ พยายามทำให้บางไว้ก่อน ถ้าแป้งหนาเกินไปจะไม่น่ากิน เรียกว่าควรให้เครื่องอย่างอื่นพอๆ กับแป้ง และพยายามใช้ให้น้อยที่สุด แต่เต็มกระทะพอดี ผสมแป้งและน้ำลงไปในเครื่องตั้งแต่แรกเลย แล้วค่อยตักใส่กระทะที่ตั้งไฟไว้แล้ว แต่ละหน้าควรจะมีความไหม้นิดๆ ก็คือได้ที่แล้ว

แต่ละหนาควรทอดอย่างน้อย 3-4 นาที ด้วยไฟกลางเท่านั้น และเวลาพลิกกลับหน้ามีเคล็ดลับคือต้องกลับให้ไวที่สุด คือไวจนส่วนผสมไม่ทันจะได้แตกออกจากกัน ก็จะได้การกลับหน้าที่สวยงาม

เป็นอีกจากที่ทำง่ายแต่เต็มไปด้วยเทคนิคครับ

ชุดสเต็กปลากะพงย่างเกลือ

อาหารที่ healthy ที่สุด น่าจะหนีไม่พ้นพวกชุดอาหารญี่ปุ่น ซึ่งเราสามารถดัดแปลงกินเองที่บ้านได้ด้วยการใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว แค่นี้ก็อร่อยสุดๆ แล้ว

สลัดซีซ่าร์

ส่วนผสมของสลัด

  1. ผักคอส
  2. ขนมปังปิ้งหั่นท่อน
  3. เบคอนจำนวนหนึ่ง
  4. พาเมซานชีส
  5. น้ำสลัดญี่ปุ่น

ส่วนผสมของน้ำสลัดญี่ปุ่น

  1. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
  5. พริกไทยและเกลือเล็กน้อย
  6. น้ำผึ้งเล็กน้อย (Optional)

เคล็ดลับ

  • ล้างผักน้ำสุดท้ายด้วยน้ำเย็นจัดและสะบัดน้ำออกให้แห้งก่อนนำมาคลุกกับส่วนผสมอื่นๆ
  • อาจใช้อกไก่สับแทนเบคอนก็ได้

เรื่องกินที่ยังไม่เคยลงตัว

หลายปีที่ผ่านมากับการลองหานโยบายที่ดีที่สุดสำหรับการกินอาหารของตัวเอง แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยลงตัว

เรื่องการกินเป็น trade-off ที่เราไม่สามารถบรรลุได้ทุกอย่าง ต้องเลือกเท่านั้น และมันก็เป็นอะไรที่เลือกยากมากจริงๆ

ถ้าถามว่าตอนนี้เราคิดว่านโยบายการกินที่เหมาะกับเราคืออะไร คำตอบน่าจะเป็น

ทำกินเองเฉพาะมื้อเช้า มีผลไม้ติดตู้เย็นไว้กินมื้อเย็นบ้าง ถ้าจะทำอะไรกินเองจริงๆ ก็เป็นแค่เมนูนึกสนุก ทำครั้งเดียวก็พอ

เหตุผลก็คือ ถ้าคิดจะทำอาหารกินเอง ต้องซื้อวัตถุดิบ แล้วก็พบว่า วัตถุดิบมีเยอะเกินไป ทำให้จำเป็นต้องกินเยอะโดยไม่จำเป็น ยิ่งเดี๋ยวนี้เราคุมน้ำหนักด้วย ทำให้แคลอรี่ที่รับได้มีจำกัด เลิกคิดจะทำมื้อเที่ยงหรือเย็นกินเองไปเลยดีกว่า ถ้าไม่มีอะไรจะกินจริงๆ ก็ถือโอกาสทำ IF ไปเลย แบบนี้เราก็จะมีของเหลือทิ้งน้อยลง แคลอรี่ที่ต้องกินก็ไม่เกินด้วย

ณ วันนี้คงเป็นแบบนี้ไปก่อน แต่วันหน้าก็ไม่รู้นะว่าจะต้องเปลี่ยนอีกมั้ย มันไม่เคยลงตัวสักที